การสื่อสารเป็นเรื่องพื้นฐานของมนุษย์ที่ใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ และความเข้าใจกันในสังคม วิธีการสื่อสารมีหลากหลายประเภท หนึ่งในรูปแบบที่ใกล้ชิดกับผู้คนวัยทำงาน คงหนีไม่พ้นกับการสื่อสารระดับองค์กร ที่มีทั้งมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับเครื่องจักร หรือแม้แต่เครื่องจักรกับเครื่องจักรก็จำเป็นต้องมีการสื่อสารกัน แต่จำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ตัวกลางที่จะช่วยรับ-ส่งสัญญาณ อย่างสายใยแก้ว หรือสายแลน เพื่อมาเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ช่วยให้การสื่อสารนี้ลุล่วง บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักแบบเจาะลึกกับ สายแลนมีกี่ประเภท เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด
สายแลนนั้นมีหลากหลายประเภท และให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป หากต้องการใช้สายแลน ควรเข้าใจลักษณะของสายแลน เพื่อที่จะได้เลือกใช้ให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูงสุด ไปดูกันว่าสายแลนมีกี่ประเภท ซึ่งประเภทของสายแลนสามารถจัดกลุ่มตามลักษณะงานได้ ดังนี้
สายแลนที่ใช้สำหรับภายใน และภายนอกอาคารนั้นเหมือนกันตรงที่มีความสามารถในการส่งสัญญาณ แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในส่วนสายหุ้มฉนวนด้านนอก เพราะสายแลนที่ใช้สำหรับภายนอกอาคารจะมีที่หุ้มของฉนวนที่ทำมาจาก PE (Polyethylene) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความหนา และแข็งแรงเป็นพิเศษ เพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศ ตรงกันข้ามกับสายแลนภายในอาคาร ที่จะหุ้มเพียงแค่ที่หุ้มฉนวนแบบบาง เพื่อให้สามารถหักงอเข้ากับมุมโต๊ะ หรือห้องได้ดี ที่สำคัญยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการลามไฟอีกด้วย ดังนั้นควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานที่ด้วย
หากแบ่งสายแลนตามลักษณะการหุ้มของฉนวนจะสังเกตเห็นว่าจะมีทั้งสายแลนที่มีฉนวนอย่างเดียว สายแลนที่มีฟลอยด์หุ้มฉนวน และแบบที่มีฟลอยด์หุ้มฉนวนเฉพาะด้านนอกเท่านั้น ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สำหรับสายแลนที่มีฟลอยด์หุ้มฉนวนทั้งหมด และแบบหุ้มเฉพาะด้านนอกนั้นนิยมใช้สำหรับป้องกันความร้อน ส่วนสายแลนแบบที่มีฉนวนอย่างเดียวนั้นเป็นสายแลนที่ใช้ในงานทั่วไป
การแบ่งสายแลนยังสามารถแบ่งได้ตาม Category ของสายแลนได้อีกด้วย หรือจะเขียนได้อย่างสั้นๆ เป็น CAT ซึ่งจะบ่งบอกถึงคุณภาพในการรองรับ Bandwidth โดยจะแบ่งตามความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลว่ามีความเร็วมากน้อยแค่ไหน ส่วนมากแล้วจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
สายแลน Cat 5: สายแลนทองแดงที่มีความเร็วต่ำที่สุด ระดับการถ่ายโอนข้อมูลเร็วสูงสุดเพียง 100 Mbps ซึ่งในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว
สายแลน Cat 5e: สายแลนทองแดงเช่นเดียวกัน แต่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากรองรับ Bandwidth ตั้งแต่ 100 Mbps ไปจนถึง 1 Gbps ที่สำคัญยังสามารถใช้งานได้หลากหลาย สำหรับเครือข่าย CC-Link IE ก็มีการใช้สายแลนตัวนี้เช่นกัน จึงทำให้การรับข้อมูลนั้นมีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้
สายแลน Cat 6: สายแลนทองแดง ที่มีการอัปความเร็วให้สูงสุดถึง 10 Tpbs Bandwidth th อยู่ที่ 250 MHz แต่ด้วยระดับความเร็วนี้ที่เกินความจำเป็น ผู้คนส่วนใหญ่จึงเลือกใช้ สายแลนประเภท UTP cat5e มากกว่า
สายแลน Cat 7: สายแลนทองแดง ที่มีระดับความเร็ว 10 GPS และมาพร้อมกับ Bandwidth th ที่มากกว่าประเภทที่ 3 ราวๆ 600 MHz
ประเภทสุดท้ายที่เป็นการจัดแบ่งประเภทสายแลนตามหัวของสายแลน โดยควรเลือกหัวสายแลนที่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ เพื่อให้มีความเร็วที่เสถียรภาพ และทำหน้าที่ในการรับ-ส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ฉลากส่วนใหญ่บนสายแลนที่มักจะมีคำว่า CAT นั้นมาจากคำว่า CATegory ที่แปลว่า ประเภท ซึ่งประเภทที่นิยมใช้งานกันเป็นวงกว้างคือ CAT 5e และ CAT 6 ใครที่กำลังสงสัยว่า หัวสายแลน และลักษณะการใช้งานของ cat5 e กับ cat6 ต่างกันยังไง ไปติดตามเนื้อหาที่นำมาฝากกันได้เลย
สายแลนประเภทนี้มีความนิยมสูงสุด มี 4 คู่สาย 8 เส้น ทำมาจากทองแดง สามารถบิดงอได้ อีกทั้งยังรองรับความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลอยู่ที่ 1,000Mbps / 1Gbps ในระยะไม่เกิน 100 เมตร ซึ่งด้วยระดับความเร็วนี้สามารถปรับใช้งานได้หลากหลาย และครอบคลุมทุกลักษณะการใช้งาน ที่สำคัญมาในราคาประหยัด เข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับการเชื่อมต่อภายในตู้สื่อสาร (Patch cord) ภายในสำนักงาน และโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
สายแลน CAT 6 เป็นสายเชื่อมเคเบิลทอง 4 คู่ 8 เส้น ที่มี Bandwidth สูงกว่า CAT 5e รองรับการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครือข่ายอย่าง Switch / Hub ทำความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้สูงถึง 250 MHz ในขณะที่สายแลน CAT 5e ทำความเร็วได้ 100 MHz ตัวสายแลน CAT 6 นี้มีความยาวสูงสุดอยู่ที่ 100 เมตร ในช่วงความยาวของสายที่ 55 เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดคงที่ 10 Gbps อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อด้วยกันคือ RJ-45
ด้านราคาของสายแลนประเภทนี้สูงกว่า CAT 5e เหมาะกับการใช้งานในบ้าน หรือสำนักงาน หากให้แนะนำการใช้สายแลน CAT 5e ก็เพียงพอต่อทุกการใช้งานแล้ว โดยขอแนะนำ CAT5e ของ CC-Link IE ที่ได้มาตรฐานในการผลิต และสามารถทำงานได้เหนือชั้นทั้งในการรับ-ส่งข้อมูลที่รวดเร็ว และทนทานต่อการใช้งาน หากผู้ใช้งานมีงบเหลือ ให้ทำการเพิ่ม Shield จะเป็นการดีกว่าการเพิ่ม CAT ให้มีระดับสูงขึ้น
Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)
Email : info@panmakapmue.co.th
โทร : 081-9160211 , 081-9160211
จำหน่ายอุปกรณ์ไอที Server PC Notebook จอคอมพิวเตอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย เราให้ราคาถูกและพิเศษกว่าใคร เท่าที่ให้ได้ ด้วยราคาดี และประกันตรงจากศูนย์ เราจะช่่วยคุณลดต้นทุน สามารถปรึกษาได้ตลอดเวลา เรามีทีมงานเฉพาะด้านที่พูดคุยกันได้ สนใจสอบถาม line : @asis.co.th
รับทำ seo By Seo Mutelu